“บิ๊กเอ”ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา เตรียมคลอดโปรเจกต์ใหญ่ซอฟต์พาวเวอร์มวยไทย เพิ่มขึ้น ตั้งแต่ มาสเตอร์คลาส นำยอดนักมวยไทยชื่อดังชื่อก้องโลก ไปโชว์ตัวและสอนเทคนิคต่างๆของกีฬามวยไทยไปทั่วโลก เริ่มนับ 1 ที่ ประเทศอังกฤษ ต่อยอดไปทั่วยุโรป และทุกทวีป

ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และ ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ออกมาเปิดเผยถึงโครงการซอฟต์พาวเวอร์มวยไทยว่า ตอนนี้การขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์มวยไทย เดินหน้าทำงานไปด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นการสร้างมาตรฐานบรรดาครูมวยไทยด้วยการจัดอบรมแล้วมอบประกาศนียบัตร เพื่อไปเป็นครูสอนมวยที่ต่างประเทศ เพื่อสร้างมูลค่าให้กับบุคลากรมวยของประเทศไทย โดยมีรูปแบบและขั้นตอนการจัดตั้งศูนย์ทดสอบและรับรองมาตรฐานสมรรถนะมวยไทยสู่ระดับสากล

โดยผู้ฝึกสอนกีฬามวยไทย มีความสนใจจะไปทำงานเป็นผู้ฝึกสอนมวยไทยในต่างประเทศจำนวนมาก ซึ่งทุกคนที่ผ่านการสอบหลักสูตรมวยไทยจะได้เกียรติบัตรรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย กกท. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน และการขยายวีซ่าให้นักท่องเที่ยวที่มาเรียนมวยไทยสามารถอยู่ได้ถึง 90 วัน ก็ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่จะมาเรียนมวยไทย

“ตั้งแต่ผมเข้ามารับงานเป็น ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ทำงานมาได้ประมาณเกือบ 3 เดือน ซึ่งกว่าจะตั้งอนุกรรมการได้ ต้องเชิญผู้ทรงคุณวุฒิในด้านต่างๆในการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์มวยไทยให้ครบทุกมิติจนสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น ตอนนี้ถือว่าเรามาในทิศทางที่ดี ซึ่งผมดีใจที่ได้มาทำงานนี้”

“ที่ผ่านมา ทำงานกีฬาเทควันโดมากว่า 20 ปี ผ่านอุปสรรคมามาก แต่เราก็ผ่านมาได้จนประสบความสำเร็จด้วยดี การมาทำงานมวยไทย กีฬาของไทย มีอุปสรรคบ้าง แก้ไขได้ มองประโยชน์เป็นส่วนใหญ่ ต้องใช้เวลา ทำไปเรื่อยๆ เราอาจจะตั้งเป้าหมายไว้ 4 ปีในช่วงรัฐบาลนี้ แต่ผมมองว่า ซอฟต์พาวเวอร์มวยไทย มันต้องเดินหน้าไปตลอด มันเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพ จะมีครูมวยมากมายไปสอนต่างประเทศ มวยไทยจะดึงนักท่องเที่ยวให้เพิ่มมากขึ้น อีกหน่อยมีการแข่งขันกันมาก กางเกงมวยไทย เป้า ระบบนิเวศของมวยรวมทั้งผู้ตัดสิน ก็จะสร้างรายได้ให้กับประเทศไทย” พิมลกล่าว

“บิ๊กเอ” ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ยังกล่าวต่ออีกว่า ในเร็วๆนี้ แผนงานต่อไปคือ มาสเตอร์คลาส ไปทั่วโลก เป็นการส่งนักมวยไทยที่มีชื่อเสียง คนทั่วโลกรู้จักดีไปโชว์ตัว และเปิดสอนเทคนิคต่างๆแบบคอร์สสั้นๆให้กับผู้ที่สนใจในต่างประเทศ โดยเราจะนับ 1 ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งมียิมสอนมวยไทยจำนวนมาก และไปทั่วยุโรป

จากนั้นเราจะนับ 2 ไปแถบตะวันออกกลาง และต่อไปทุกทวีป นอกจากนี้เราจะคุยกับทางทหาร เพื่อที่จะนำมวยไทยไปสอนกองทัพต่างประเทศ ขณะที่ ภายในประเทศ ในต้นสัปดาห์หน้า จะมีการเซ็น MOU กับท่าน ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครฯ เพื่อที่จะผลักดันมวยไทยเข้าไปเป็นการเรียนการสอนในโรงเรียน โดยจะนำร่อง 10 โรงเรียนใน กทม. และอนาคตจะขยายต่อไปในต่างจังหวัด เพื่อเป็นทางเลือกในการเรียนด้านกีฬาของเยาวชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน