เป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์ไม่มากก็น้อยหลังทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์สามารถหักปากกาเซียนด้วยการโค้นทีมชาติอิตาลีแชมป์เก่าในฟุตบอลยูโร 2024 รอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์ 2-0 ส่งผลให้ทัพ “แดนนาฬิกา” ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวได้สำเร็จ
และในแมตช์ที่ผ่านมานักเตะที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากคงจะหนีไม่พ้น รูเบน บาร์กาส แนวรุกวัย 25 ปีหลังเจ้าตัวยิงประตูที่สองแบบสุดสวยพาทีมทิ้งห่าง 2-0 ตั้งแต่นาที 46 หรือหากนับเป็นเวลาจริงคือเริ่มครึ่งหลังมาเพียง 27 วินาที และถือเป็นประตูสำคัญที่ทำให้พวกเขาเล่นได้ง่ายขึ้นก่อนเป็นฝ่ายคว้าชัย
Switzerland’s Ruben Vargas, centre right, shoots to score his side’s second goal during a round of sixteen match between Switzerland and Italy at the Euro 2024 soccer tournament in Berlin, Germany, Saturday, June 29, 2024. (AP Photo/Ariel Schalit)
แน่นอนว่าจากฟอร์มที่เกิดขึ้นทำให้ บาร์กาส คว้ารางวัลเพลย์เยอร์ ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมนี้ไปครองซึ่งเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่า “ผมรู้เมื่อเช้านี้ว่า ผมจะได้เป็นตัวจริง และผมก็ดีใจมาก ซึ่งก่อนเริ่มครึ่งหลังเล็กน้อย กรานิต (ชากา) พูดกับผมว่า ได้โปรดทำประตูหน่อย ไม่กี่วินาทีต่อมาผมก็พบลูกบอลอยู่ที่เท้าของผม และผมก็ทำตามที่ กรานิต พูดแล้วยิง”
Switzerland’s Ruben Vargas, center, celebrates with teammates after scoring his side’s second goal during a round of sixteen match between Switzerland and Italy at the Euro 2024 soccer tournament in Berlin, Germany, Saturday, June 29, 2024. (Soeren Stache/dpa via AP)
สำหรับ วาร์กาส นั้นแท้จริงแล้วเขาเป็นลูกครึ่งโดมินิกัน-สวิตเซอร์แลนด์ ทว่าเจ้าตัวถือสัญชาติสวิสเนื่องจากเกิดที่ประเทศดังกล่าว โดยเขาเริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพครั้งแรกกับ ลูเซิร์น สโมสรในบ้านเกิดเมื่อปี 2016 ก่อนจะได้ย้ายไปเล่นกับ เอาก์สบวร์ก ทีมดังของเยอรมนีในปี 2019
โดยสไตล์การเล่นของ บาร์กาส นั้นจะเน้นการเลี้ยงบอลด้วยความเร็ว ซึ่งถือเป็นจุดเด่น นอกจากนั้นเขายังสามารถเล่นได้หลายตำแหน่งทั้งปีก รวมถึงเพลย์เมกเกอร์ด้วย
ขณะที่กับทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ บาร์กาส ลงเล่นตั้งแต่ชุดยู-20 ก่อนได้โอกาสติดธงชุดใหญ่ครั้งแรกเมื่อปี 2019 และได้เคยผ่านทัวร์นาเมนต์ใหญ่อย่างยูโร 2020 และฟุตบอลโลก 2022 มาแล้ว
Switzerland’s Ruben Vargas celebrates after scoring his side’s second goal during a round of sixteen match between Switzerland and Italy at the Euro 2024 soccer tournament in Berlin, Germany, Saturday, June 29, 2024. (AP Photo/Ariel Schalit)
ส่วนในยูโร 2024 แข้งวัย 25 ปีรายนี้ได้รับโอกาสลงสนามทั้ง 4 นัดนับตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มจนถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยสถิติรวม 245 นาที พร้อมทำได้ 1 ประตูกับ 1 แอสซิสต์
อย่างไรก็ตามย้อนไปเมื่อยูโร 2020 ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์เมเจอร์แรกของเขากับทีมชาติ บาร์กาส ต้องเผชิญกับแผลในใจเนื่องจากเขาคือหนึ่งในนักเตะที่ยิงจุดโทษพลาดซึ่งส่งผลให้พ่ายต่อทีมชาติสเปนในรอบ 8 ทีมสุดท้าย
ทำให้ในยูโรหนนี้เชื่อว่า บาร์กาส มีความมุ่งมั่นในการแก้ตัวในการพาทีมชาติไปให้ไกลที่สุดซึ่งหากเขายังรักษาฟอร์มเก่งไว้ได้แบบนี้ เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทีมรายอื่นๆ ที่มีผลงานโดดเด่นเช่น กรานิต ชากา, ดาน เอ็นดอย หรือเรโม ฟลอยเลอร์ เป็นต้น ไม่แน่ว่า ทัพ “แดนนาฬิกา” อาจจะเป็นม้ามืดที่เข้ามาสอดแทรกในการแย่งลุ้นแชมป์ด้วยก็เป็นได้
