การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 เมื่อคืนวันที่ 29 มิถุนายน เป็นรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สนาม เบเฟาเบ สตาดิโอน ดอร์ตมุนด์ (ซิกนัล อิดูนา ปาร์ก) เมืองดอร์ตมุนด์ ประเทศเยอรมนี เยอรมนี เจ้าภาพ ลงพบกับ เดนมาร์ก

โดยในรอบแรกที่ผ่านมา เยอรมนี ทำผลงานชนะ สกอตแลนด์ 5-1, ชนะ ฮังการี 2-0 และเสมอ สวิตเซอร์แลนด์ 1-1 มี 7 คะแนน ผ่านเข้ารอบมาเป็นอันดับ 1 กลุ่มเอ ส่วนเดนมาร์ก ทำผลงาน เสมอ สโลวีเนีย 1-1} เสมอ อังกฤษ 1-1 และเสมอ เซอร์เบีย 0-0 ผ่านเข้ารอบมาเป็นอันดับ 2 กลุ่มซี

เกมนี้เยอรมนี มาในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย มานูเอล นอยเออร์ : โยซัว คิมมิช, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, นิโค ชล็อตเทอร์เบ็ก, ดาวิด เราม์ : โรเบิร์ต อันดริช, โทนี โครส : จามาล มูเซียลา, อิลคาย กุนโดกัน, ลีรอย ซาเน : ไค ฮาแวร์ตซ์

ส่วน เดนมาร์ก มาในระบบ 3-4-1-2 ประกอบด้วย แคสเปอร์ ชไมเคิล : โยอาคิม แอนเดอร์เซน, แอนเดรียส คริสเตนเซน, แยนนิก เวสเตอร์การ์ด : อเล็กแซนเดอร์ บาห์, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ก, โธมัส เดลานีย์, โยอาคิม เมห์เล : คริสเตียน อีริกเซน : ราสมุส ฮอยลุนด์, แอนเดรียส สคอฟ โอลเซน

เริ่มเกมช่วงแรกเยอรมนี เปิดเกมรุกเข้าใส่อย่างดุดัน โดยสามารถส่งบอลเข้าไปสัมผัสตาข่ายได้แล้วด้วยตั้งแต่ นาที 4 จากจังหวะเตะมุม ซึ่งเป็น นิโค ชล็อตเทอร์เบ็ก ที่สอดขึ้นมาโหม่งเข้าไป แต่สุดท้าย ผู้ตัดสินให้เป็นจังหวะฟาวล์ไปก่อน

หลังจากเข้าช่วง 15 นาทีแรก เดนมาร์ก เริ่มตั้งเกมของตัวเองได้ และมีโอกาสสวนกลับขึ้นมาได้ลุ้นทำประตูบ้าง ขณะที่เยอรมนี ยังคงพยายามเซ็ตเกมบุกต่อไป อย่างไรก็ตามนาที 35 เกมต้องหยุดชะงักชั่วคราว ราว 20 นาที เนื่องจากมีพายุฝนตกลงมาอย่างหนัก รวมถึงมีฟ้าผ่า และลูกเห็บด้วย ทำให้ ผู้ตัดสิน ต้องสั่งให้ทั้งสองทีมเข้าไปหลบพักในห้องแต่งตัวเพื่อความปลอดภัย

เมื่อกลับมาเล่นกันอีกครั้ง นาที 37 ดาวิด เราม์ ได้เปิดเข้าไปให้กรอบให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ขึ้นโขกเน้นๆ แต่ แคสเปอร์ ชไมเคิล ยังโชว์ความยอดเยี่ยมเซฟเอาไว้ได้

ช่วงท้ายครึ่งแรกนาที 45 เป็นทีของเดนมาร์ก บ้างที่สวนกลับขึ้นมาได้น่ากลัว โธมัส เดลานีย์ พาบอลขึ้นมาก่อน จ่ายให้ ราสมุส ฮอยลุนด์ หลุดเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับ มานูเอล นอยเออร์ แต่ยังยิงไปติดเซฟ ทำให้ จบครึ่งแรก เยอรมนี ยังเสมอ เดนมาร์ก 0-0

ครึ่งหลังนาที 48 เดนมาร์ก เกือบได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย เมื่อ โยอาคิม แอนเดอร์เซน ได้โอกาสยิงเข้าประตูไปแล้ว แต่เมื่อเช็กวีเออาร์แล้ว โดนจับล้ำหน้าไปเสียก่อน

อย่างไรก็ตามจากนั้นไม่นาน ในนาที 53 โยอาคิม แอนเดอร์เซน คนเดิมมาทำแฮนด์บอลในกรอบจนเสียจุดโทษ ก่อนจะเป็น ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไปให้ เยอรมนี ออกนำ เดนมาร์ก 1-0

เกมยังเป็นเยอรมนี ที่ทำได้ดีกว่า นาที 68 จามาล มูเซียลา รับบอลยาว ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ แคสเปอร์ ชไมเคิล ก่อนจะเลือกแปเล่นทาง ผ่านมือ ชไมเคิล เข้าไปให้ เยอรมนี หนี เดนมาร์ก เป็น 2-0

ช่วงเวลาที่เหลือแม้ เดนมาร์ก จะพยายามเปิดเกมบุกมากขึ้น แต่ เยอรมนี ก็คุมเกมเอาไว้ได้หมด รวมถึงมีโอกาสบวกประตูที่สามเพิ่มด้วย แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เด็ดขาดพอ ทำให้ จบ 90 นาที เยอรมนี ชนะ เดนมาร์ก 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ โดยจะไปรอพบผู้ชนะระหว่าง สเปน พบ จอร์เจีย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน