รอดปาฏิหาริย์! หญิงถูกฉลามหัวบาตรจู่โจม กัดขาเกือบขาด เจ็บสาหัส ขณะว่ายน้ำ ในอ่าวซิดนีย์ ออสเตรลีย โชคดีเพื่อนบ้านช่วยทัน

รายงานจากสื่อต่างประเทศ BBC เผย หญิงชาวออสเตรเลีย “ลอเรน โอนีล” (Lauren O’Neill) วัย 29 ปี ถูกฉลามหัวบาตรจู่โจม ระหว่างว่ายน้ำในอ่าวซิดนีย์ ประเทศ ออสเตรลีย

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่ ‘ลอเรน’ กำลังว่ายน้ำชมพระอาทิตย์ตกใกล้ท่าเรือเอกชน ในย่านเอลิซาเบธเบย์ อ่าวซิดนีย์ ก่อนจะถูก ‘ฉลามหัวบาตร’ (Bull shark) โจมตี กัดที่บริเวณขา จนมีแผลเหวอะหวะ บาดเจ็บสาหัส

ภาพประกอบ จาก CNN

ด้าน ‘ลอเรน’ เปิดใจกับสื่อว่า โดยปกติแล้ว เธอมักจะว่ายน้ำแถวชายฝั่งเป็นประจำในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว ในวันที่เกิดเหตุก็เช่นกัน เธอใช้ชีวิตปกติ ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกือบคร่าชีวิตเธอ

พยาน ไมเคิล พอร์เตอร์ บอกกับสกายนิวส์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ CNN ว่าเขาเพิ่งกลับจากที่ทำงานและได้ยินเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือ เมื่อออกไปก็เจอ ‘ลอเรน’ เกาะบันไดที่ติดกับท่าเรือ ซึ่งล้อมรอบด้วยน้ำเป็นสีแดงจากเลือดราวกับหนังสยองขวัญ

เขารีบเข้าช่วยเหลือ ‘ลอเรน’ ทันที ก่อนจะปฐมพยาบาลเบื้องต้น เคราะห์ดีของเธอที่มีสัตวแพทย์หญิงคนหนึ่งอยู่ในละแวกนั้น และเข้าช่วยห้ามเลือด พร้อมประสานหน่วยแพทย์

ภาพประกอบ จาก CNN

รายงานเผยว่า ทีมศัลยแพทย์ ทำงานหนักตลอดทั้งคืน เพื่อรักษาชีวิตและขาของเธอไว้ ‘ลอเรน’ ขอบคุณทุกคนจากใจจริงอย่างซาบซึ้งสำหรับทุกความช่วยเหลือ ทั้งยังขอบคุณเพื่อนบ้านละแวกนั้นที่กล้าหาญและใจดี ขอบคุณหน่วยแพทย์และตำรวจสำหรับการช่วยเหลือที่รวดเร็วและเอาใจใส่

เธอเผยอีกว่า “การฟื้นตัวเต็มที่ของเธอน่าจะเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงทักษะอันยอดเยี่ยมของพวกเขา”

ภาพประกอบ จาก BBC

การโจมตีครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในอ่าวซิดนีย์นับตั้งแต่ปี 2552 เมื่อฉลามหัวบาตรทำร้ายนักดำน้ำของกองทัพเรือออสเตรเลียใกล้เกาะกรีน

ลินดา สก็อตต์ สมาชิกสภาซิดนีย์ เผยกับ CNN ว่า การโจมตีครั้งล่าสุดทำให้ประชาชนตกใจมาก อย่างไรก็ดี คงไม่สามารถสั่งห้ามประชาชนว่ายน้ำ เพียงแค่ย้ำเตือนเท่านั้น

เป็นที่รู้กันดีว่า ท่าเรือซิดนีย์ เป็นที่อยู่อาศัยของฉลามหัวบาตร แต่การโจมตีในบริเวณนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ผู้เชี่ยวชาญย้ำเตือนประชาชนให้งด หรือเลี่ยงว่ายน้ำในอ่าว ในวันที่อากาศร้อนจัด และช่วงเช้าตรู่หรือพลบค่ำ ซึ่งเป็นช่วงที่ฉลามออกหากินมาก

ภาพประกอบ จาก CNN

ที่มา : CNN, BBC

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน