อุตุฯเตือนฝนกระหน่ำ 12 จว.ภาคใต้ ตรังจมแล้ว 5 อำเภอหลังฝนตกต่อเนื่อง 2 วัน กระทบชาวบ้านกว่า 3 พันครัวเรือน นา-สวนล่มกว่า 3 หมื่นไร่ ผู้ว่าฯสั่งเตรียมแผนอพยพ กรมชลฯโต้ข่าวอ่างเก็บน้ำ ท่าแนะพัง แจงแค่น้ำล้น ส่วนที่ยะลสั่งติดป้ายเตือนภัยดินถล่มใส่ถนน ปัตตานีแตกตื่นน้ำป่าถล่มน้ำตกทรายขาว ปิดเส้นทางรถไฟหาดใหญ่- บ้านคลองแงะ หลังน้ำท่วมราง นครศรีฯ ปิด 6 น้ำตกหลังมวลน้ำถล่ม ส่วนภาคกลาง พื้นที่เขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี เริ่มกลับมาปกติ หลังเขื่อนเพชรลดปล่อยน้ำ แต่ อ.บ้านแหลม ยังอ่วม รับน้ำบ่าออกสู่อ่าวไทย
อุตุเตือนฝนถล่ม 12 จว.ใต้
เมื่อวันที่ 26 พ.ย. เวลา 11.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศว่า จากเหตุมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนตกสะสม ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยพื้นที่คาดว่าได้รับผล กระทบมีดังนี้ ช่วงวันที่ 26-28 พ.ย.60 บริเวณจ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรง โดยบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง ส่วนประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออก ขอให้ระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย
อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศหนาวเย็น ส่วนภาคเหนือมีลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุม ทำให้บริเวณภาคเหนืออากาศหนาวเย็นลง และอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วยและติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยม วิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้
ตรัง-ยังอ่วมท่วมหนัก
ส่วนสถานการณ์ฝนตกอย่างต่อเนื่องมาหลายวัน ส่งผลให้พื้นที่หลายจังหวัดถูกน้ำท่วม โดยที่จ.ตรัง หลังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง 2 วัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมถนน และบ้านเรือนชาวบ้านหลายจุด ใน 5 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.นาโยง อ.ปะเหลียน อ.ห้วยยอด และอ.รัษฎา หมู่ 8 ตำบลนาโยงใต้ โดยที่อ.เมือง น้ำเริ่มท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน ระดับน้ำ 20- 80 ซ.ม. มากกว่า 10 หลังคาเรือน, ที่ถนนตรัง-พัทลุง ตั้งแต่ หมู่ 7 ตำบลละมอ อำเภอนาโยง เส้นทางเดินรถจากตรัง สู่จังหวัดพัทลุง น้ำท่วมถนนระยะทางกว่า 1 ก.ม. ระดับความบนถนน 20- 30 ซ.ม. รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ รถใหญ่ต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ใช้รถให้ใช้เส้นทางเบี่ยงที่ตำบลนาปด-ช่อง อำเภอนาโยงในการเดินทางไปจังหวัดพัทลุงแทน, ที่วัดเกาะฐาน หมู่ 3 ต.หนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด ระดับน้ำสูงประมาณ 50 ซ.ม. คาดว่าถ้ายังมีฝนตกน้ำจะท่วมสูงขึ้นอีก และในพื้นที่อ.รัษฎา น้ำจาก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เริ่มเข้าท่วม เรือกสวนไร่นาของชาวบ้าน ก่อนที่มวลน้ำทั้งหมดได้ไหลลงสู่พื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำตรัง ในต.ห้วยนาง ต.หนองช้างแล่น ต.ลำภูรา ต.เขาขาว ต.วังคีรี ต.ท่างิ้ว และต.ปากคม อ.ห้วยยอด ทำให้ขณะนี้พื้นที่ จ.ตรัง มีผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้แล้วประมาณ 3,000 ครัวเรือน
นายศิริพัฒ พัฒกุล ผวจ.ตรัง กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง จึงแจ้งเฝ้าระวังทุกพื้นที่ พร้อมสั่งการให้ป้องกันจังหวัดตรัง ประสานข้อมูลไปยัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรี ธรรมราช เพราะมีปริมาณน้ำมากและท่วมหลายพื้นที่ ขณะเดียวกันที่ทำการปกครองจังหวัด ได้ประสานฝ่ายความมั่นคงทั้ง 10 อำเภอ ให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และให้รายงานเป็นระยะ พร้อมให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนตลอดริมฝั่งแม่น้ำตรัง คลอง ลำภูรา คลองนางน้อย คลองน้ำเจ็ด คลองปะเหลียน รวมถึงพื้นที่ลุ่ม และพื้นที่รับน้ำ ให้เฝ้าระวัง พร้อมเตรียมวางแผนขนย้ายผู้คน สิ่งของ หรือสัตว์เลี้ยง ไปไว้ยังที่ปลอดภัย
พัทลุงสวน-นาล่ม 3 หมื่นไร่
ที่จ.พัทลุงว่า ฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่อง ท้องฟ้ามืดครึ้ม ทำให้ปริมาณน้ำหลากท่วมบ้านเรือนบ้านชาว และพื้นที่การเกษตร ใน 10 อำเภอ ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนประมาณ 5,000 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมขังกว่า 30,000 ไร่ โดยเฉพาะชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 5 ต.ปรางหมู่ อ.เมือง ระดับน้ำสูงเฉลี่ยกว่า 1 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือสัญจรเข้าออกหมู่บ้าน ขณะที่บริเวณย่านเศรษฐกิจเขตเทศบาลตำบลควนขนุน อ.ควนขนุน ก็ยังมีน้ำท่วมเช่นกันโดยระดับน้ำประมาณ 20 ซ.ม. โดยวัดปริมาณฝนสูงสุดที่สถานีฝายควนกุฏิต.ควนขนุน อำเภอเขาชัยสน ได้ 224 มิลลิเมตร และบริเวณประตูระบายน้ำท่าแนะ ตำบลเขาย่า อำเภอศรีบรรพต วัดได้ 211.3 มิลลิเมตร ส่งผลทำให้น้ำจากเทือกเขาบรรทัดและปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนราษฎร มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำเฉลี่ยประมาณ 10-40 ซ.ม. พื้นที่ได้รับผล กระทบ จำนวน 246 หมู่บ้าน 27 ตำบล 6 อำเภอ คาดว่าระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โครงการชลประทานพัทลุง ได้แจ้งเตือนภัยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้นำชุมชนเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 9 เครื่อง ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง เพื่อเร่งระบายน้ำหากเกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดต่อไปด้วย
ส่วนถนนสายเพชรเกษมในพื้นที่จ.พัทลุง ทั้งขาขึ้นขาล่อง มีสภาพน้ำไหลผ่านเป็นช่วงๆ โดยเฉพาะสายขึ้น ช่วงสี่แยกโพธิ์ทอง และบริเวณหน้าวัดทุ่งขึงหนัง อ.ควนขนุน ระดับน้ำท่วมถนนประมาณ 20 ซ.ม. และจากสี่แยกโพธิ์ทองไปยังตัวอำเภอควนขนุน จนถึงตลาดในเขตเทศบาลตำบลควนขนุน มีน้ำท่วมผิวจราจรหลายจุด เป็นทางยาวกว่า 500 เมตร แต่รถยังแล่นผ่านได้
กรมชลฯโต้อ่างเก็บน้ำพัง
ส่วนกรณีข่าวอ่างเก็บน้ำคลองท่าแนะถูกกัดเซาะคันดิน เป็นทางยาวมีมวลน้ำไหลผ่านกลายเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ลงสู่คลองท่าแนะและมวลน้ำดังกล่าวกำลังไหลลงสู่ที่ราบเอ่อท่วมพื้นที่ต.ชะมวง ต.ควนขนุน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง โดยเฉพาะบริเวณตลาดควนขนุน และถนนสายโพธิ์ทอง-อ.ควนขนุน ยาวเกือบ 1 กิโลเมตร ระดับลึกสุดบริเวณหน้าตลาดควนขนุน 40 ซ.ม. ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากนั้น
นายทองเปลว กองจันทร์ ช่วยราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมชลประทาน ชี้แจงว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่จ.พัทลุง วัดปริมาณฝนสูงสุดระหว่างเวลา 07.00-18.00 น. ของวันที่ 25 พ.ย. ที่บริเวณประตูระบายน้ำท่าแนะ อ.ศรีบรรพต ได้ 153 ม.ม. ทั้งนี้ ประตูระบายน้ำท่าแนะ เป็นประตูระบายน้ำที่สร้างกั้นคลองท่าแนะ ไม่ใช่อ่างเก็บน้ำตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด จึงไม่สามารถเก็บกักน้ำไว้ได้ เมื่อมีฝนตกตอนบนของลุ่มน้ำ ทำให้มีปริมาณน้ำที่ไหลมาในคลองท่าแนะเป็นจำนวนมาก และได้ไหลล้นออกทางระบายน้ำล้น สูง 40-60 ซ.ม. เกิดการกัดเซาะตลิ่งบริเวณด้านท้ายทางระบายน้ำล้นจุดที่ไหลไปบรรจบกับลำน้ำเดิม ประกอบกับมีปริมาณน้ำจำนวนมากไหลผ่านประตูระบายน้ำลงสู่คลองท่าแนะ จนเกินความจุของคลองที่จะรับได้ ส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร พื้นที่การเกษตรและเส้นทางสัญจรในเขต อ.ควนขนุน ต.ชะมวง ต.ดอนทราย และเทศบาลตำบลควนขนุน ระดับน้ำท่วมสูงเฉลี่ย 15-30 ซ.ม. โดยปริมาณน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งนำแผงเหล็กมาปิดกั้น เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมทั้งออกแจ้งเตือนประชาชนให้เร่งอพยพสิ่งของ สัตว์เลี้ยงขึ้นไว้ที่สูง
ยะลาสั่งป้องกันดินถล่ม
ที่จ.ยะลา เกิดฝนตกลงมาในพื้นที่ข้ามวัน ส่งผลให้พื้นที่ราบลุ่ม ริมคลอง เริ่มมีน้ำสะสมบ้างแล้ว โดยทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดยะลา ได้ออกประกาศแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงต่อน้ำท่วมขัง และดินสไลด์ทับเส้นทาง โดยให้ในพื้นที่ อ.เมืองยะลา อ.รามัน อ.กรงปินัง และ อ.ยะหา บูรณาการทุกภาคส่วนป้องกันและแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงต่อน้ำท่วมขัง ส่วนพื้นที่ อ.เบตง อ.ธารโต อ.กาบัง และอ.บันนังสตา ให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังเหตุดินสไลด์ในพื้นที่ รวมทั้งดินสไลด์ทับเส้นทางคมนาคม พร้อมติดตั้งป้ายเตือนให้ประชาชนทราบและระมัดระวังอันตราย
ด้านสำนักงานชลประทานจังหวัดยะลา ได้ส่งหนังสือด่วนถึงผวจ.ยะลา ให้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และพื้นที่ติดริมตลิ่ง ให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีการคาดการณ์ว่า ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานีจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แตกตื่นน้ำป่าถล่มอุทยานฯ
ที่จ.ปัตตานี ทำให้เกิดน้ำท่วมขังเข้าบ้านเรือนราษฎรในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ราบลุ่มที่เกิดน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี ต.ยาบี ต.ดาโต๊ะ ต.คลองใหม่ อ.หนองจิก ต.ประจัน ต.เขาตูม ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง ต.บาราเฮาะ ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง ซึ่งสภาพอากาศในตอนเช้า ท้องฟ้าปิดมืดครึ้ม ทัศนวิสัยไม่ดี ขับรถต้องเปิดไฟ และยังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แล้ว โดยพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำฝน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มากที่สุด คือ อ.กะพ้อ จำนวน 110 ม.ม. ตามด้วย อ.ไม้แก่น อ.ปะนาเระ อ.ยะรัง อ.หนองจิก ขณะที่ปริมาณระดับน้ำในเขื่อนปัตตานียังอยู่ในระดับปกติ ยังไม่ล้นสปิลเวย์ และระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานียังไม่ล้นตลิ่ง
ส่วนอุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว ต.ทรายขาว อ.โคกโพธิ์ หลังจากที่เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่วันที่ 24 พย.ที่ผ่านมา ทำให้น้ำในอ่างบนเทือกบนอุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาวเต็มและไม่สามารถกักเก็บน้ำที่มีจำนวนมากไว้ไม่อยู่ ประกอบกับต้นไม้ถึงแม้ว่ามีจำนวนมากก็ดูดซึมน้ำไว้ไม่ได้ จนทำให้มวลน้ำจำนวนมากบนเทือกเขาไหลทะลักจนเป็นน้ำป่าไหลหลากลงมาสู่ชั้นล่างซึ่งเป็นบริเวณแหล่งท่องเที่ยวอุทยานอย่างรุนแรง และยังทะลักล้นออกพ้นจากตลิ่ง ความเร็วของน้ำที่มีจำนวนมากนี้ ทำให้ เจ้าหน้าที่อุทยานตกใจและต่างประกาศให้ประชาชนที่อยู่โดยรอบหรือบริเวณใกล้ทางน้ำตกให้ระมัดระวังตัว พร้อมประกาศให้ประชาชนที่จะมาท่องเที่ยวในช่วงนี้ให้อยู่แต่ในจุดปลอดภัยตามที่เจ้าหน้าที่บอกไว้
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว เผยว่า ช่วงเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากเกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น. สถานการณ์เช่นนี้ไม่พบบ่อยนัก ตั้งแต่มาทำงานที่นี่ 10 ปี ยังไม่เคยมีปรากฏการณ์เช่นนี้ ซึ่งถือว่ามีความโชคดีที่ช่วงเกิดเหตุไม่มีประชาชนลงเล่นน้ำ ช่วงที่มีน้ำหลากลงมาได้ยินเสียงกระแสน้ำชัดเจน เจ้าหน้าที่ทุกคนจึงออกมาพร้อมประกาศให้ประชาชนออกจากบริเวณทางน้ำ พร้อมกับกระจายไปตามจุดต่างๆ เพื่อระวังป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น จนกระทั่งเวลา 11.00 น. มวลน้ำป่าได้ลดลง กลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ก็ยังไม่นิ่งนอนใจ ทางอุทยานยังคงติดประกาศให้ประชาชนระมัดระวังและห้ามเข้าไปยังจุดอันตรายที่มีการประกาศไว้
สงขลาน้ำท่วมถนนสูง
ขณะที่สภาพอากาศในพื้นที่ จ.ปัตตานี จนถึงขณะนี้ ฝนยังคงตกหนักทุกพื้นที่ใน 12 อำเภอ ซึ่งตลอด 3 วันหลายพื้นที่มีน้ำท่วมขัง ทั้งพื้นที่ลุ่มและบนถนน เนื่องจากน้ำระบายไม่ทัน เช่น ถนนในเขต อ.เมืองปัตตานี หลายสายมีน้ำท่วมขังและสูง ถนนในเขตตลาดเทศบาลนาประดู่ อ.โคกโพธิ์ ทั้งสอง 2 เลนถูกน้ำท่วมสูงเป็นระยะทางกว่า 5 ก.ม. ทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เนื่องจากน้ำระบายไม่ทัน ขณะที่ หมู่ 3 บ้านบาโงยือริง อ.สายบุรี ผลจากฝนตกหนักทำให้ดินชุ่มน้ำและมีลมแรงทำให้ต้นไม้ใหญ่ได้ล้มทับบ้านเรือนประชาชนจนเสียหาย 1 หลังแต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเพราะไม่อยู่บ้าน
ที่จ.สงขลา ฝนได้ตกสะสมต่อเนื่องมา 3 วัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันขึ้นในหลายพื้นที่ ถนนเชื่อมระหว่างอำเภอบางสายถูกน้ำท่วมสูง รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ที่บ้านคลองยาเหนือ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ น้ำป่าได้ไหลเข้าท่วมถนนสายคลองยาเหนือ ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่าง ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ กับ ต.นาม่วง อ.นาหม่อม มีท่วมสูงประมาณ 50 ซ.ม. และไหลเชี่ยว รถเล็กทั้งรถจักรยาน ยนต์และรถยนต์ไม่สามารถผ่านได้ และบ้านเรือนและร้านค้าน้ำเริ่มไหลเข้าบ้าน เส้นทางถนนกาญจนวนิช บริเวณสี่แยกคลองหวะ จาก อ.หาดใหญ่ไป อ.สะเดา น้ำท่วมถนนการสัญจรค่อนข้างลำบาก
ปิดทางน้ำท่วมรางรถไฟ
ส่วนที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ มีน้ำท่วมรางรถไฟระหว่าง อ.หาดใหญ่-บ้านคลองแงะ ที่บ้านพรุระยะทางยาว 100 เมตร ระดับน้ำสูงจากรางรถไฟ 30 ซ.ม. ต้องปิดเส้นทางตั้งแต่เวลา 11.25 น.
นายบรรหาร โกบยาหยัง ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการเดินรถภาค 4 การรถไฟแห่งประเทศไทยกล่าวว่า จากฝนตกสะสมมา 2-3 วันในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ส่งผลให้ระดับน้ำเอ่อล้นท่วมรางรถไฟแล้วบางพื้นที่เช่นที่บ้านพรุ อ.หาดใหญ่และที่กำลังมีระดับน้ำสูงระหว่างสถานีนาม่วง-สถานีควนมีด หากฝนหยุดตกจะทำให้ระดับน้ำลดลงได้
นครศรีฯปิด 6 น้ำตก
ที่จ.นครศรีธรรมราช นายวิกานต์ ทั่วด้าว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาหลวง ประกาศปิดน้ำตกในเขตอุทยานจำนาน 6 แห่ง คือ น้ำตกพรหมโลก น้ำตกอ้ายเขียว พื้นที่ อ.พรหมคีรี, น้ำตกกะโรม อ.ลานสกา, น้ำตกท่าแพ อ.ช้างกลาง, น้ำตกกรุงชิง อ.นบพิตำ และน้ำตกเหนือฟ้า อ.พิปูน เนื่องจากมีน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ โดยได้ประกาศปิดมาถึงวันที่ 28 พ.ย.
ทั้งนี้หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องมาจนถึงขณะนี้ ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำหลายพื้นที่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดน้ำไหลหลาก ท่วมขัง และล้นตลิ่ง ได้แก่อ.ชะอวด ในพื้นที่ ต.วังอ่าง ต.ควนหนองหงษ์ ต.เกาะขันธ์ และ ต.เขาพระทอง สำหรับอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส ได้พร่องน้ำเหลือร้อยละ 20 จากความจุ 80 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ยังสามารถรองรับน้ำได้อีกประมาณ 55 ล้านลบ.ม.
นอกจากนั้นพื้นที่น้ำท่วมขังในที่ลุ่มมีอีก 3 อำเภอ คือ อ.บางขัน, อ.ทุ่งสง และอ.ร่อนพิบูลย์ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละพื้นที่ ได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว ขณะที่ระดับน้ำในลำคลองสายต่างๆ เพิ่มขึ้นเกือบล้นตลิ่ง
“บ้านแหลม”ยังอ่วม
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลาง ที่เขตเทศบาลเมือง จ.เพชรบุรี ระดับเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ถนนทุกสายรถสัญจรได้ตามปกติ บางสายมีน้ำท่วมแต่ไม่มาก ชาวบ้านเริ่มทำความสะอาดบ้านเรือนรื้อเก็บกระสอบทรายที่กันน้ำ ส่วนที่รอบนอกอำเภอบ้านแหลม ยังมีปัญหาน้ำท่วมอยู่ อย่างไรก็ตามผลจากเขื่อนเพชรปล่อยน้ำออกท้ายเขื่อนลงแม่น้ำเพชรจาก 46.48 ลบ.ม.ต่อวินาที เหลือเพียง 38.21 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งน้อยกว่าประมาณที่แม่น้ำเพชรบุรีมาก เนื่องจากแม่น้ำเพชรสามารถรองรับน้ำได้ถึง 180 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเพชรลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเทศบาลได้ใช้เครื่องสูบน้ำระบายลงแม่น้ำเพชรทั้งคืนทำให้ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองกลับมาสัญจรได้ตามปกติ ขณะที่อ.บ้านแหลมยังมีปัญหาน้ำท่วมอยู่ในพื้นที่ต.บางครก และต.ท่าแร้ง เนื่องจากเป็นพื้นที่สุดท้ายที่น้ำจะไหลออกสู่อ่าวไทย
