เศรษฐา ยังนิ่ง เดินหน้าปฏิบัติภารกิจที่โตเกียว หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติ เสียงข้างมากให้รับคำร้อง แต่ไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
วันที่ 23 พ.ค.2567 ภายหลัง ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย ในคดีประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของ สว. 40 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ พร้อมมีมติ 5 ต่อ 4 ไม่สั่งให้นายเศรษฐา หยุดปฏิบัติหน้าที่
จากกรณี 40 สว.ร้องว่า นายเศรษฐา ผู้ถูกร้องที่ 1 ได้นำความกราบบังคมทูลฯ เพื่อโปรดเกล้าแต่งตั้งนายพิชิต ผู้ถูกร้องที่ 2 เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่า นายพิชิต ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างการปฏิบัติภารกิจที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 22-24 พ.ค. ในการเข้าร่วมการประชุม Nikkei Forum Future of Asia ครั้งที่ 29 ว่า นายเศรษฐา ยังคงมีท่าทีเป็นปกติ แต่ได้มีการตรวจสอบ และโทรศัพท์สอบถามกับคณะทำงานอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม นายกฯ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามกำหนดการที่วางแผนไว้ โดยเวลา 13.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่ากรุงเทพฯ 2 ชั่วโมง นายกฯ เข้าร่วมการประชุม One-on-one ที่โรงแรม Peninsula Tokyo
จากนั้นเวลาประมาณ 14.00 น. นายกรัฐมนตรีพบหารือกับผู้บริหารบริษัท Mipsui&Co.,Ltd. ณ โรงแรมที่พัก เวลา 14.25 น. พบผู้บริหาร Ajinomopo Co.,Inc. ก่อนจะพบและหารือกับผู้บริหารบริษัท Sony Grpup Crporation ในเรื่องอุตสาหกรรมเป้าหมาย
จากนั้นพบหารือกับผู้บริหารบริษัท MUFGZ&Softbank (สถาบันการเงิน) และพบหารือกับผู้บริหารบริษัท Nidec Corporation
จากนั้นเวลา 18.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น นายกฯ พบหารือกับดาโต๊ะ เซอร์ อันวาร์ อิบบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่โรงแรม The Imperial tokyo
จากนั้นเวลา 19.00 น. นายกฯ ร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ กับผู้เข้าร่วมการประชุม Nikkei Forum Future of Asia ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 22-24 พ.ค.ณ กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น ซึ่งภายในงานนายคิชิดะ ฟูมิโอะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นร่วมงานพร้อมกล่าวสุนทรพจน์
