เพื่อไทย มั่นใจทีมกฎหมายดูแล้ว ‘ชาญ’ ไม่จำเป็นต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที หลังโดนขุดคดีเก่า ย้ำให้รอฟังศาลชี้ขาด ชี้กกต.ไม่ได้ห้ามสมัคร

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 ก.ค.2567 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ กรณีมีการเปิดเผยเอกสารคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดนายชาญ พวงเพ็ชร์ สมัยเป็น นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี เมื่อปี 2555 และมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ว่า กรณีนายชาญ ไม่น่ามีปัญหา เพราะป.ป.ช.ส่งเรื่องต่อศาลตั้งแต่ปี 2555 โดยศาลประทับรับฟ้อง และนายชาญได้หยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว จึงถือว่าจบไป

ส่วนที่คณะกรรมการกฤษฎีกามีหนังสือเวียนให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เป็นความเห็นทางกฎหมายของคณะกรรมการกฤษฎีกา การจะหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ต้องเป็นคำสั่งศาล ไม่ใช่เป็นไปตามอัตโนมัติ ขณะนี้นายชาญ มีสิทธิ์ดำรงตำแหน่งนายก อบจ. เพราะในขณะสมัครลงเลือกตั้งไม่ได้ขาดคุณสมบัติ และสามารถประกาศรับรองได้ แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงควรปล่อยตามข้อกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ยังไม่มีกฎหมายใดห้าม

“ศาลยังไม่มีคำสั่งว่านายชาญ มีความผิด และยังมีสิทธิ์ต่อสู้ แต่หากอนาคต ศาลตัดสินว่ามีความผิด ทุกอย่างก็จบ เวลานี้ทุกคนอย่าเพิ่งคิดไปไกล ให้รอศาลพิจารณา สิ่งที่เป็นปัญหาสำหรับประเทศไทยคือ คนจินตนาการไปก่อนศาลตัดสิน ซึ่งเป็นการละเมิดดุลยพินิจศาล ทุกอย่างควรเป็นไปตามกระบวนการ และดุลยพินิจของศาลที่จะสรุปความชัดเจน” นายภูมิธรรม กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าระหว่างที่ศาลยังไม่ชี้ชัด นายชาญควรหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปก่อนหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวย้ำว่า นี่คือความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา แต่ต้องรอให้ศาลมีคำสั่ง และมีหลายเรื่องที่คณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็น แต่ศาลตัดสินเป็นอย่างอื่น จึงไม่ควรก้าวล่วงดุลยพินิจศาล

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยทราบเรื่องคดีก่อนส่งผู้สมัครหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ฝ่ายพิจารณาบุคคลลงสมัครของพรรคเพื่อไทยคงไตร่ตรองดีแล้ว แต่ตนไม่ทราบรายละเอียด

ผู้สื่อข่าวถามว่ามองอย่างไรเมื่อจบเลือกตั้ง นายก อบจ.ปทุมธานี แล้วมีการเปิดเผยเรื่องดังกล่าวทันที นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา เสร็จเลือกตั้งทีไรก็จะมีการวิจารณ์ ก่อนเลือกตั้งก็ใช้โพลมาพูดกัน ซึ่งตรงบ้างไม่ตรงบ้าง ดังนั้น ให้รอกระบวนการยุติธรรม ไม่ต้องโทษใครกลั่นแกล้งใคร หรือใครรื้อฟื้นอะไร หากยึดกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมให้สบายใจได้

นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยตรวจสอบข้อมูลเรื่องดังกล่าวแล้ว มีความเห็นว่าเรื่องนี้ ป.ป.ช.เป็นโจทก์ฟ้องเอง ขณะที่ศาลประทับรับฟ้องนั้น นายชาญไม่มีตำแหน่งหน้าที่ จึงไม่มีกรณีต้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ถือว่าขณะนี้คดีอยู่ในอำนาจพิจารณาของศาล ถ้าจะต้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ป.ป.ช.ที่เป็นโจทก์ต้องยื่นคำร้องต่อศาล

นอกจากนั้นการให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ไม่มีบัญญัติไว้ในพ.ร.บ.วิธีพิจารณาของศาลอาญาทุจริต เพียงแต่เขียนไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วย ป.ป.ช.เท่านั้น และเป็นดุลยพินิจของศาลว่า ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ไม่ใช่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่โดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ ต้องเป็นเรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองนายชาญให้เป็นนายก อบจ.แล้ว

นายสรวงศ์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่อ้างคำวินิจฉัยกฤษฎีกาว่านายชาญ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น เป็นเรื่องการใช้อำนาจตามกฎหมายการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่น เป็นกรณีทั่วไป กรณีนี้เมื่อคดีอยู่ในอำนาจศาลแล้ว ควรให้ศาลเป็นผู้สั่ง ถ้ากระทรวงมหาดไทยสั่ง ถือเป็นคำสั่งทางปกครอง ผู้ถูกคำสั่งสามารถฟ้องร้องไปยังศาลปกครองได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน