เลขากฤษฎีกา ยืนยัน ‘ชาญ’ รับตำแหน่งนายกอบจ.ปทุมธานีเมื่อไหร่ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่อัตโนมัติ ชี้ เป็นไปตามผลของกฎหมาย ให้ปลัดอบจ.ทำหน้าที่แทน

เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 2 ก.ค.2567 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้สัมภาษณ์กรณี นายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ซึ่งชนะการเลือกตั้ง แต่มีคดีค้างเก่าที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เคยยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ และศาลประทับรับฟ้องไว้ นายชาญจำเป็นต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ว่า เมื่อไหร่ที่เข้ารับหน้าที่ก็ต้องหยุด

เมื่อถามย้ำว่าเมื่อเข้ารับตำแหน่งต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันทีหรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า ใช่ เพราะวัตถุประสงค์ของคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้เหตุผลทุกกรณีไว้ว่า หากถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่โดยป.ป.ช.ชี้มูล และมีคำถามว่าระหว่างนั้นเขาพ้นตำแหน่งแล้วกลับเข้ามาทำหน้าที่ใหม่จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ซึ่งโดยตรรกะต้องหยุด เพราะไม่ต้องการให้ยุ่งเหยิงกับคดีที่ผ่านมา และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น ถือเป็นหลักกฎหมายปกติ

เมื่อถามว่ากรณีดังกล่าวถือว่าต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องมีหน่วยงานใดมาชี้ใช่หรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า ไม่ต้องมีหน่วยงานใดมาชี้ เพราะเป็นไปตามผลของกฎหมายอยู่แล้ว

เมื่อถามว่านายชาญมีสิทธิ ไม่เชื่อความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาหรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า หากนายชาญไม่เชื่อ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) จะเป็นคนชี้ เพราะมีอำนาจหน้าที่ดูแลเรื่องของการเข้าสู่ตำแหน่ง การดำรงตำแหน่ง และการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น สถ.จึงเป็นผู้มีคำสั่งดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป

เมื่อถามว่าใครจะทำหน้าที่แทนนายชาญ หากต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ นายปกรณ์ กล่าวว่า คงเป็นปลัด อบจ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นข้าราชการประจำ อย่างไรก็ตาม ในรายละเอียดเรื่องนี้อยากให้สอบถามอธิบดี สถ. และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน