FootNote:กระบวนการ ข่าวลือ ข่าวปล่อย สะท้อน การดิ้น จากการเมืองเก่า
วันเดียวกันกับที่ 8 พรรคการเมืองที่นำโดยพรรคก้าวไกล ร่วมกันลงนาม “ข้อตกลงร่วม” (MOU) อันเหมือนกับเป็นสัญญาประชาคมในการร่วมขับเคลื่อนรัฐบาลใหม่
รัฐบาลอันได้รับการเลือกจากประชาชนกว่า 24 ล้านเสียงทั่วประเทศ ดำรงความเป็น “ส่วนข้างมาก” ในระบอบประชาธิปไตย
ก็ปรากฏข่าว “ปล่อย” ออกมาอย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องความขัดแย้งระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย ในการเสนอตัวผู้จะเข้าดำรงตำแหน่งประธานสภา
ไม่ว่าจะเป็นในการเคลื่อนไหวที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะวางมือจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และยื่นใบลาออกจากการเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ
อันเท่ากับเป็นการดำเนินตาม “ไพบูลย์โมเดล” ยุบพรรคประชาชนปฏิรูป แล้วโอนย้ายจากพรรคประชาชนปฏิรูปเข้าเป็นส่วนหนึ่งของพรรคพลังประชารัฐ
เพียงแต่ในกระสวนแห่งข่าวซึ่งถูก “ปล่อย” ออกมาครั้งนี้เป็นกระบวนการจัดวางทางการเมือง เพื่อรองรับการแยกตัวของพรรคเพื่อไทยออกจากพรรคก้าวไกลและพันธมิตร
สะท้อนถึงการดิ้นรนในการที่จัดรัฐบาลแข่งกับพรรคก้าวไกล
ไม่ว่าข่าวที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอตัวบุคคลเข้าชิงตำแหน่งประธาน สภากับบุคคลของพรรคก้าวไกล ไม่ว่าข่าวการตัดสินใจอย่างเฉียบขาดของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
เกิดขึ้นในเส้นทางสายข่าวที่ต้องการแยกพรรคเพื่อไทยออกจากพรรคก้าวไกล
เป็นกระบวนการ “เสี้ยม” ในทางการเมืองอย่างเด่นชัด
ประสานกับข่าวที่ นายทักษิณ ชินวัตร ออกมาตีปลาหน้าไซ ถึงบางพรรคการเมืองที่ปล่อยข่าวลือว่า จะมีการเดินทางไปหารือที่ฮ่องกงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลโดยดึง นายทักษิณ ชินวัตร เข้าไปเกี่ยว
พลันที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ยืนยันว่าเป็นข่าวที่มีความเป็นไปได้น้อยมาก และไม่มีเลย เพราะพรรคเพื่อไทย ยังยึดมั่นอยู่กับพรรคก้าวไกลอย่างแน่วแน่
ผลก็คือ การตกของตลาดหุ้นก็พลิกกลับเข้าสู่ดัชนีปกติ
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม จึงสะท้อนให้เห็นด้านหนึ่ง ที่ผลการเลือกตั้งก่อให้เกิดสภาพการณ์ในทางการเมืองอันเป็นความหวัง
แต่ด้านหนึ่งก็สะท้อนถึงการดิ้นรนของการเมือง “เก่า” ตามมา
ประชาชนชื่นชมกับประดิษฐ์กรรมอย่าง “ข้อตกลงร่วม” อันเป็นสัญญาประชาคมก่อนเข้าบริหาร แต่ก็ยังมีร่องรอยแห่งการเมืองเก่าแสดงตนออกมาผ่านกระบวนการข่าวปล่อย
แต่ละการเคลื่อนไหวนี้กำลังทดสอบพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย อย่างร้อนแรงและแหลมคม