‘เรือนเสมือนญาติ’ ริเริ่มขึ้นเพื่อให้ผู้ป่วยยากไร้โรงพยาบาลศิริราชได้มีที่พักฉุกเฉินระหว่างการเข้ารับรักษา

โดยเริ่มจัดตั้งโครงการตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 โดย ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เข้ากราบนมัสการหารือกับพระพิศาลพัฒนกิจ เจ้าอาวาส วัดอมรินทราราม ก่อตั้งโครงการเรือนเสมือนญาติ ซึ่งเปรียบเหมือน ‘ถังออกซิเจน’ สำหรับผู้ป่วยยากไร้โรงพยาบาลศิริราชได้หายใจพึ่งพิง โดยการเข้าพักได้รับการดูแล

และร่วมกับท่านพระครูสมุห์ญาณภพ ยตินัธโร เมฆอรุณ หัวหน้าพระบัณฑิตอาสา วิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ดำเนินโครงการนี้ ด้วยแนวคิดที่จะทำให้โรงพยาบาลและวัดได้ร่วมเป็นที่พึ่งของประชาชน จึงได้สร้าง ‘เรือนเสมือนญาติ’ ขึ้นเป็นที่พักฉุกเฉินสำหรับผู้ป่วยและญาติได้อาศัยยามยากภายในบริเวณวัดอมรินทรารามวรวิหาร ซึ่งอยู่ใกล้มือหมอ

เนื่องจากทั้งโรงพยาบาลศิริราช และวัดอมรินทรารามวรวิหาร ตั้งอยู่ในเขตเมืองหลวง ซึ่งมีพื้นที่จำกัด ‘เรือนเสมือนญาติ’ จึงได้รับการออกแบบโดยเน้นการใช้สอยในพื้นที่อันจำกัดให้เกิดประโยชน์ได้มากที่สุด พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่จำเป็นอย่างครบครัน

โดยที่ผ่านมาได้รับความเอื้อเฟื้อจากผู้บริจาคผ่าน ‘ศิริราชมูลนิธิ’ เพื่อให้ผู้ป่วยและญาติได้มีโอกาสใช้เวลาอยู่ร่วมกันและดูแลกัน โดยมีวัดเป็นที่พึ่งทางใจ

ปัจจุบันยังคงส่งต่อโอกาสให้ผู้ป่วยด้อยโอกาสรายอื่นๆ ได้มีอากาศหายใจจากการได้มีที่พักพิง และกำลังใจสู้โรคภัยไข้เจ็บต่อไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด

พระครูสมุห์ญาณภพกล่าวเพิ่มเติมในฐานะผู้ดูแลเรือนเสมือนญาติ แห่งวัดอมรินทรารามวรวิหาร ว่า ปัจจุบันเรือนเสมือนญาติ ไม่ได้เป็นเพียงที่พักพิงของผู้ป่วยและญาติที่มารอเข้ารับการรักษาและติดต่อโรงพยาบาลศิริราชที่อยู่ใกล้กับวัดอมรินทรารามวรวิหารเท่านั้น แต่ยังเป็นที่พักของพระภิกษุและสามเณรจากภายนอกวัดอมรินทรารามวรวิหาร ทั้งที่มีนัดและไม่มีนัดกับ โรงพยาบาลศิริราช

ดำเนินการโดยยึดหลักพระพุทธศาสนาว่าด้วยการพึงให้ที่พึ่งพิงแก่พระภิกษุสงฆ์จาก 4 ทิศ โดยได้จัดให้ชั้นบนของเรือนเสมือนญาติ เป็นที่พักสำหรับพระภิกษุและสามเณรจากภายนอกวัดอมรินทรารามวรวิหารที่เป็นผู้ป่วยซึ่งมาติดต่อกับโรงพยาบาลศิริราชด้วย และยังได้ทำให้ผู้ป่วยและญาติได้มีที่พึ่งทางใจ จากมุมที่จัดไว้ให้โดยเฉพาะสำหรับสวดมนต์ ไหว้พระ ฟังเทศน์ ฟังธรรมก่อนนอนในทุกวัน

พระครูสมุห์ญาณภพกล่าวอีกว่า นอกจากนี้เรือนเสมือนญาติ ยังได้เปิดโอกาสให้ญาติผู้ป่วยที่เป็นโยมฝ่ายชายคอยช่วยเหลือ พระบิณฑบาต และแบ่งปันอาหารก้นบาตร มารับประทาน เพื่อ แบ่งเบาค่าใช้จ่ายในแต่ละมื้อของครอบครัว

ในขณะที่ญาติผู้ป่วยซึ่งเป็นโยมฝ่ายหญิงยังสามารถทำหน้าที่จิตอาสา คอยปัดกวาดเช็ดถูดูแลเรือนเสมือนญาติ ให้สะอาดและน่าอยู่เสมอระหว่างการเข้าพักอาศัย

สิ่งที่ได้คือ ‘ความภาคภูมิใจ’ จากการได้ ‘บำเพ็ญประโยชน์’ และส่งต่อ ‘ความทรงจำดีๆ’ ระหว่างได้มาพักที่เรือนเสมือนญาติผ่านงานจิตอาสา

ผู้ป่วยสูงวัยยากไร้โรคมะเร็งต่อมลูกหมากของโรงพยาบาลศิริราชรายหนึ่งจากจังหวัดทางภาคใต้ แพทย์เจ้าของไข้กำหนดให้เข้ารับการฉายแสงที่ โรงพยาบาลศิริราชอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 37 วัน โดยต้องรอเข้ารับการฉายแสงช่วงหยุดยาวปีใหม่ รู้สึกประทับใจในความเอื้อเฟื้อจากโรงพยาบาลศิริราช และวัดอมรินทรารามวรวิหาร ที่ให้โอกาสได้เข้าพักที่เรือนเสมือนญาติ ที่อยู่แล้วสบายใจแห่งนี้

ผู้ป่วยสูงวัยรายนี้เล่าความรู้สึกว่า การได้ที่พักใกล้โรงพยาบาลทำให้ไม่ต้องกังวลในเรื่องการเดินทาง ส่วนตัวมองว่าความเจ็บป่วย เป็นเรื่องธรรมดา หากมีกำลังใจดีก็จะสามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

เรือนเสมือนญาตินั้น ได้รับแรงศรัทธาจากปวงชนชาวไทยอย่างไม่ขาดสาย และยังคงทำหน้าที่ต่อไปด้วยความเชื่อมั่นในคุณค่าของความเป็นมนุษย์ โดยให้ความสำคัญต่อทุกชีวิตอย่างเท่าเทียม ต่อไป ผู้มีจิตศรัทธาที่มีความประสงค์ จะร่วมบริจาคสมทบกองทุน ‘เรือนเสมือนญาติ’ ผ่าน ‘ศิริราชมูลนิธิ’ โดยสามารถลดหย่อนภาษีได้ ติดต่อได้ที่ โทร. 0-2419-7658-60

ที่สุดของ “การให้” ไม่ใช่เพียงการให้ทรัพย์สินเงินทองเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ แต่คือการให้ ‘โอกาส’

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน