แฉ แป้ง นาโหนด ปลอมพาสปอร์ตเข้าอินโดฯ ซุกบาหลี ถูกจับหลายครั้งแต่แกล้งเป็นใบ้ ทวี สอดส่อง เร่งขยายผลถึงเครือข่ายทั้งหมด เผยมีสาวๆ ไปหาบ่อย

เมื่อวันที่ 30 พ.ค.67 ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์หลังเข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานถึงความคืบหน้า กรณีการจับกุม นายชวลิต หรือแป้ง นาโหนด ว่า วันนี้ทางการอินโดนีเซียได้ทำการจับกุม นายชวลิต หรือแป้ง นาโหนด ได้ที่บาหลี โดยในวันพรุ่งนี้ (31 พ.ค.) จะไปประสานเพื่อรับตัวที่กรุงจาการ์ตา

สืบเนื่องจากที่นายกฯ ได้สั่งการให้กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงต่างประเทศ ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และเมื่อวันเสาร์ที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้ให้ตนบินไปที่อินโดนีเซีย เพื่อให้ประสานกับทางการอินโดนีเซีย พร้อมกับมีข้าราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมราชทัณฑ์ ป.ป.ส. และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)

ที่สำคัญ นายกฯได้มอบ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางต่างประเทศ เนื่องจาก แป้ง นาโหนด หลังจากหนีออกจากประเทศไทย ได้ปลอมหนังสือเดินทางเป็นคนอาเจะห์ และเข้าไปอยู่ในอินโดนีเซีย โดยเข้าไปอยู่อย่างระมัดระวัง โดยหลักๆ อาศัยอยู่ที่เมดัน และบาหลี โดยตำรวจอินโดนีเซีย ได้ให้ความร่วมมืออย่างยิ่ง

กระทั่งเมื่อเช้าได้จับกุมตัวได้ที่บาหลี และวิดีโอคอลมาให้ตนสอบปากคำแป้ง นาโหนด เพื่อยืนยันว่าเป็นตัวจริง ต้องขอขอบคุณทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า จากการเกาะติดมาตลอด จนได้เบาะแสที่สำคัญอย่างยิ่งคือ หลังจากจับกุมได้ อาจได้เครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดตามที่เราไปสืบมา งานนี้เป็นความร่วมมือกันโดยเฉพาะกระทรวงต่างประเทศที่เป็นผู้ประสานงาน

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เราได้ติดตามมาตลอด โดยเฉพาะเกาะติดคนที่บินไปหาเขา ซึ่งมีหลายคน ในรายละเอียดขอให้เป็นเรื่องของการสืบสวนสอบสวน เมื่อนำตัวมาแล้วเรื่องข้อมูลว่ากันอีกที ซึ่งทางอินโดนีเซียจะมีขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากเขาได้ถือหนังสือเดินทางปลอม เขาอาจจะเคยถูกจับกุมหลายครั้ง เมื่อถูกตรวจสอบ เขาก็แสดงเป็นคนใบ้ เพราะไม่สามารถพูดภาษาอินโดได้

โดยการสืบสวนเริ่มมาจากของไทย เพียงแต่เราเพิ่งไปบอกให้ทางอินโดฯได้รับทราบ และต้องยอมรับความสามารถของตำรวจอินโดฯ ก็เป็นมืออาชีพ เมื่อรู้เรื่องนี้เขาก็จะทำให้เต็มที่ การประสานครั้งนี้โดยเฉพาะช่วงหลังๆเรากับอินโดฯ ก็มีการประสานงานเรื่องนักค้ายาเสพติดรายสำคัญๆด้วยกัน

เมื่อถามถึงว่าผู้ที่บินไปหานายแป้งคือใคร พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงหลายคน เท่าที่ดูไม่ใช่คนในครอบครัว มันโยงกับการจับคนอินโดนีเซียไปเรียกค่าไถ่เมื่อเร็วๆ นี้ด้วย ต้องขอให้สอบสวนให้เสร็จก่อน

เรื่องนี้ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 รวมทั้งรักษาการผบ.ตร. ก็ได้ทำงานเต็มที่ หลังจากเราคว้าน้ำเหลวในการปิดล้อมเขา ต้องยอมรับว่าเขาเป็นมืออาชีพ แม้แต่ตำรวจอินโดยังยอมรับ พอเรารู้ว่าเขาหนีออกนอกประเทศไปแล้ว เราก็ได้จัดชุดขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อติดตามอยู่ตลอด ก็ต้องขอบคุณตำรวจที่ไม่ปล่อย และฝังตัวอยู่ตลอด และนำจากเรื่องเล็กๆน้อยๆ เช็กการเดินทางเล่นว่าทำไมต้องไปเมดัน ประกอบกับเข้าข้อมูลที่เรามีอยู่

เมื่อถามว่าจังหวะที่ไปจับกุมแป้ง นาโหนดมีการอยู่อย่างไร พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ขณะที่ไปจับเขาไปเที่ยวที่บาหลี ปกติจะมีคอนโดใหญ่อยู่ที่เมดัน แต่เบื้องต้นขอสอบสวนเพิ่มเติมก่อน

เมื่อถามว่าในการสอบปากคำ นายแป้งได้พูดอะไรหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เขาก็ยอมรับว่าเขาจนมุมแล้ว เพียงเราก็บอกว่าขอให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และรับรองเรื่องความปลอดภัย เขาไม่เคยเตรียมตัวเตรียมใจว่าจะถูกจับได้ ที่เขาออกมาเที่ยวเพราะเขาคิดว่าอยู่ในช่วงที่ปลอดภัยที่สุด ถ้าเขาไม่คิดว่าปลอดภัยเขาก็จะเก็บตัวอยู่ในห้องที่เมดัน โดยที่เราพบคือได้มีการไปทะเลาะและทำร้ายร่างกายคนอินโดนีเซียที่บาหลี จนนำไปสู่การจับกุมได้

เมื่อถามถึงในการตามตัวแป้ง นาโหนดในช่วงแรกนั้น ที่มีการใช้ฉากหลังเป็นต้นปาลม์ต่างๆ ได้ คาดเดาได้หรือยังว่าเป็นพื้นที่ใด อยู่ในไทยหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตอนนั้นก็มีสงสัยว่าอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่เราไม่สามารถระบุได้ว่าที่ไหน เราก็ให้ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ได้ว่า ไม่ใช่ในภาคใต้ของประเทศไทยแน่นอน

“ทางการอินโดนีเซีย จะนำตัวไปกรุงจาการ์ตา และเราจะไปเจอเขาที่จาการ์ตา และจะต้องขอบคุณพล.อ.นิพัทธ์ ด้วย ที่นายกฯ มอบให้มาทำงานเรื่องนี้ เพราะท่านมีความเชี่ยวชาญเคยไปทำงานที่อาเจะห์ ส่วนผมเพิ่งกลับมาจากการไปประสานงานก็จะเดินทางไปรับตัวแป้ง นาโหนดเอง น่าจะในวันพรุ่งนี้” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน