ประชุมแผนรับตัว ‘แป้ง นาโหนด’ กลับไทยพรุ่งนี้ ใช้กำลัง 100 นาย คุ้มกัน จากสนามบินถึงโรงพัก เผยมีหมายจับอีก 3 หมาย ‘ทวี’ ห่วงคุกเมืองคอนกำลังซ่อม หวั่นซ้ำรอย

เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.67 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.รักษาการแทน รอง.ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนเป็นประธานการประชุม zoom meeting เพื่อเตรียมความพร้อมรับตัว นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด นักโทษหนีคดีที่ถูกทางการอินโดนีเซีย จับกุมตัวได้กลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย ว่า วันนี้เป็นการประชุมมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประสานงาน

พร้อมทั้งตำรวจ อินเตอร์โพลของอินโดนีเซีย เพื่อนำตัว แป้ง นาโหนด กลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย ซึ่งทางตำรวจอินเตอร์โพลอินโดนีเซียจะนำตัวขึ้นเครื่อง C130 กองทัพอากาศ โดยเป็นเรื่องของความปลอดภัยและความเหมาะสม

จากนั้นในส่วนของขั้นตอนการรับตัว พนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อกล่าวหา และนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำนครศรีธรรมราช ส่วนกระบวนการคุมขังหลังจากนั้นเป็นอำนาจหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ที่จะพิจารณานำตัวไปคุมขังที่ไหน เนื่องจากเรือนจำที่นครศรีธรรมราชอยู่ระหว่างการก่อสร้างยังไม่สมบูรณ์

พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวต่อว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กำชับกรมราชทัณฑ์ให้ดำเนินการอย่างปลอดภัยเนื่องจาก แป้ง นาโหนด มีพฤติกรรมเคยหลบหนีมาก่อน หากกรมราชทัณฑ์พิจารณาแล้วเห็นว่าสถานที่คุมขังในพื้นที่ของจังหวัดนครศรีธรรมราชไม่ปลอดภัย

จะนำตัวมาคุมขังที่ใดนั้น ตำรวจภูธรภาค 8 เตรียมแผนจัดวางกำลังเรื่องนี้ไว้แล้ว ส่วนเรื่องของเอกสารในการส่งตัวผู้ต้องหาวันนี้ตรวจสอบแล้ว จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยกระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานงานกับทางตำรวจอินเตอร์โพล์เรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว

พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ตำรวจหญิงที่เคยช่วยเหลือในการหลบหนีก่อนหน้านี้นั้น ถูกดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้จะต้องติดตามว่ากรมราชทัณฑ์จะร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากตำรวจอย่างไร

วันเดียวกัน พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช พร้อมนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่จากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ประชุมคอนเฟอร์เรนพร้อมกับศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจภูธรภาค 9 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน กองทัพอากาศ กรมราชทัณฑ์ เพื่อเตรียมแผนรับนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ “แป้ง นาโหนด” นักโทษหลบหนีเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช

โดยก่อนหน้าการประชุมสำรวจเส้นทางที่เตรียมใช้เป็นเส้นทางเคลื่อนย้ายนักโทษรายนี้ ตั้งแต่ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ต.ปากพูน อ.เมือง มุ่งหน้าไปยัง สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และทำความเข้าใจขั้นตอนต่างๆ เพื่อเป็นข้อมูลรายงานในที่ประชุม โดยวันนี้พรุ่งนี้ (4 มิ.ย.67) ทราบว่านายเชาวลิตจะเดินทางโดยเครื่องบินแบบ ซี 130 ของกองทัพอากาศไทยจากประเทศอินโดนีเซีย ตรงมายังท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช

สำหรับการเตรียมแผนปฏิบัติการนั้นมีรายงานว่า มีชุดปฏิบัติการพิเศษ (SWAT) จากกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมยานพาหนะ ชุดปฏิบัติการพิเศษ (ราชเดช) จากกองกำกับการสืบสวนตำรวจนครศรีธรรมราช กำลังกองกำกับการสืบสวนรวมนับ 100 นาย สนธิกำลังป้องกันปราบปราม และงานสืบสวน สภ.เมือง กระจายกำลังควบคุมพื้นที่ ตั้งแต่ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช มาจนถึง สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ตลอดเส้นทางประมาณ 15 กิโลเมตร

ส่วนขั้นตอนหลังจากเครื่องบินเข้าจอดแล้ว เจ้าหน้าที่จะเข้ารับตัวนายเชาวลิตที่เครื่องบินทันที ตรวจสอบความถูกต้อง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ศุลกากรจะดำเนินการตามพิธีศุลกากรกรณีอากาศยานมาจากต่างประเทศ ซึ่งทุกอย่างได้ประสานงานไว้ล่วงหน้าแล้ว ก่อนจะนำตัวนายเชาวลิตขึ้นรถที่เตรียมไว้อย่างน้อย 5 คัน ที่สำคัญจะมีเจ้าหน้าที่ติดอาวุธคุมกันอย่างแน่หนา ตามแผนป้องกันการชิงตัว ขณะจะมุ่งหน้ามายัง สภ.เมือง

เมื่อมาถึง สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ได้ประสานกับแพทย์รอรับอยู่แล้ว จะตรวจร่างกายและตรวจปัสสาวะตามขั้นตอนการรับตัว เพื่อยืนยันว่าการเดินทางมาถึง สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายเชาวลิต อยู่ในสภาพปกติ หลังจากนั้นจะเข้าสู่ห้องประชุมชั้น 3 สภ.เมือง เพื่อเข้าสู่กระบวนการแจ้งข้อกล่าวหา ตามหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ในคดีหลบหนีการควบคุม หลังจากเสร็จสิ้นจะเข้าสู่กระบวนการฝากขัง

พล.ต.ต.สมชาย กล่าวว่า นายเชาวลิตยังมีหมายจับอีก 3 หมายในท้องที่ตำรวจภูธรภาค 9 ซึ่งอยู่คนละส่วนกับนครศรีธรรมราช โดยพนักงานสอบสวนจากพัทลุงจะเข้าแจ้งข้อกล่าวหาในวันพรุ่งนี้ (4 มิ.ย.67) ด้วยทั้งหมด และยืนยันว่าเตรียมแผนการรับตัวไว้ทุกขั้นตอน รวมทั้งการเตรียมแผนเผชิญเหตุอย่างเข้มข้น ส่วนการให้ปากคำจะพาดพิงถึงใครบ้างหรือไม่ จะบันทึกไว้ทั้งหมด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน